สำหรับปัญหายอดฮิตก่อนที่เราจะเริ่มต้นฝึกเล่นอูคูเลเล่นั้น คงจะหนีไม่พ้นเรื่องที่เราควรจะต้องหาซื้ออูคูเลเล่มาใช้งานกันก่อนใช่ไหมครับ และเพราะเรื่องวิธีการเลือกซื้ออูคูเลเล่ นี่แหละครับที่จะกลายเป็นปัญหาหลักๆ ที่จะส่งผลต่อการเล่นของเราในเวลาต่อมา ทั้งในเรื่องของ ราคา และ วิธีเลือก ไม่ว่าจะเป็นการที่ได้ของที่ไม่คุณภาพไม่เหมาะกับการนำมาเรียนรู้ใช้ฝึกซ้อมหรือการเริ่มต้นเล่น ไม่ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับมือใหม่ที่แท้จริง ซึ่งการพบเจอปัญหาเหล่านี้มักส่งผลให้เราล้มเลิกการเล่นอูคูเลเล่หลังซื้อไปในที่สุดครับ

ทำความเข้าใจ ราคา วิธีเลือก แตกต่างกันอย่างไร

ในท้องตลาดเครื่องดนตรีอูคูเลเล่ในปัจจุบัน มีอูคูเลเล่หลากหลายแบรนด์ หลายยี่ห้อ ราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น หลักแสน ซึ่งตัวแปรของราคาที่มีความแตกต่างกันนั้น มือใหม่หลายๆคน ส่วนใหญ่แล้วจากประสบการณ์มักที่จะมองหาอูคูเลเล่ที่มีราคาถูกเสมอ ซึ่งถามว่าใช้ฝึกใช้เล่นได้ไหม?

อูคูเลเล่หลักร้อยบาท ก็สามารถใช้เล่นได้ครับ แต่อูคูเลเล่ที่มีราคาถูกจนเกินไป จะมีข้อแตกต่างกันในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคุณภาพวัสดุที่ใช้ทำอูคูเลเล่ คุณภาพของเสียงที่ดี ทัชชิ่งหรือสัมผัสเมื่อกดสาย ขนาดคอที่ออกมาให้เหมาะพอดีมือไหม ซึ่งจุดนี้จะมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมากเลยครับ

แล้วเราควรซื้ออูคูเลเล่ ราคาเท่าไหร่ดี? ควรที่จะมีราคาหลักพัน หรืออยู่ในช่วงเลทราคา 2,000 – 3,000 บาทครับ จะเป็นช่วงที่อยู่ในเลทราคาเหมาะสมสำหรับมือใหม่ที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะซื้ออูคูเลเล่ราคาหลักร้อยมาใช้งานไม่ได้นะครับทั้งนี้ขึ้นอยู่กับงบประมาณ และดุลพินิจของแต่ละคนด้วยครับ อีกอย่างคือการที่เราลงทุนกับอะไรที่มีมูลค่าเรามักจะรู้สึกเสียดายและทำให้เราตั้งใจและอยู่กับสิ่งนั้นๆ ได้นานด้วยครับ

ขนาดและไซส์ของอูคูเลเล่

ในเบื้องต้นนั้นเราควรมาทำความเข้าใจกันก่อนครับว่าอูคูเลเล่มีกี่ขนาดและมีชื่อเรียกแต่และไซส์ว่าอะไร เพื่อความง่ายต่อการไปเลือกซื้อ อีกทั้งยังได้รู้ว่าแต่ละไซส์มีความแตกต่างและเหมาะสมกับใครบ้าง

ขนาดของอูคูเลเล่จะมีด้วยกัน 4 ขนาด คือ

1. Soprano
2. Concert
3. Tenor
4. Baritone

โดยแต่ละไซส์จะมีขนาดที่ต่างกันในหลายๆ จุด ไม่ว่าจะเป็น จำนวนของช่วง ความยาวของคอ ขนาดความใหญ่ของลำตัว ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลในเรื่องของการใช้งานที่มีความแตกต่างกันด้วยครับ ดังนั้นอย่าลืมเลือกใช้ขนาดให้เหมาะสมกับจุดประสงค์ของเรากันด้วยนะครับ

อูคูเลเล่ไซส์ Soprano (ขนาด 21 นิ้ว)

เป็นไซส์เริ่มต้นของอูคูเลเล่ที่มีขนาดของลำตัวเล็กที่สุดในทั้ง 4 ไซส์ เหมาะสำหรับผู้หญิงและเด็กเล็ก เพราะด้วยขนาดลำตัวที่เล็กจริงส่งผลในเรื่องของเสียงที่จะมีความแหลมของโทนเล็กน้อย มักนิยมนำมาใช้สำหรับการตีคอร์ด อีกทั้งยังพกพาไปเล่นนอกสถานที่ได้สะดวกครับ

อูคูเลเล่ไซส์ Concert (ขนาด 23 นิ้ว)

ถัดมาจะเป็นไซส์ที่อยู่ตรงกลางของอูคูเลเล่ โดยขนาดของ Concert นั้นจะมีบอดี้ขนาดกลางไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป เหมาะสำหรับคนทุกวัย และยังเป็นไซส์ยอดนิยมของอูคูเลเล่เพราะสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายรูปแบบการเล่น หรือสามารถเล่นได้กว้างนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นการตีคอร์ด เกาสาย หรือการเล่นบรรเลงเพลงก็ยังทำได้ดี เรียกได้ว่าเป็นไซส์ที่ซื้อไว้ใช้งานได้ในระยะเลยทีเดียว

อูคูเลเล่ไซส์ Tenor (ขนาด 26 นิ้ว)

ไซส์ที่มีขนาดที่ใหญ่รองลงมาจาก Baritone และมีความใกล้เคียงกับขนาดของกีต้าร์เลเล่ เป็นขนาดและไซส์เฉพาะทางหรือมักเป็นตัวเลือกของการซื้ออูคูเลเล่ตัวที่ 2 ที่ต้องการนำมาเล่นในรุปแบบที่มีความเฉพาะทางมาขึ้นอย่างการเน้นเล่นบรรเลง Fingerstyle แบบเน้นๆ และด้วยขนาดของลำตัวที่มีความใหญ่ ทำให้ได้โทนเสียงที่มีความใกล้เคียงกับกีต้าร์แต่ยังคงมีโทนเสียงกลางและแหลมมากกว่ากีต้าร์

ประเภทและชนิดของไม้

เราควรที่จะรู้และทำความเข้าใจกับเรื่องไม้ที่ใช้ทำอูคูเลเล่กันไว้สักหน่อยครับ เพื่อประโยชน์ต่อคุณภาพและเสียงที่ดีของอูคูเลเล่หลักๆ จะเกิดจากไม้ที่ใช้ผลิตนั้นเองครับ ให้เราสังเกตกันก่อนนจะซื้ออูคูเลเล่ครับว่าเป็นไม้ชนิดไหน

โดยส่วนใหญ่แล้วไม้หลักๆ ที่ใช้ทำอูคูเลเล่นั้นจะประกอบไปด้วยไม้ Mahogany, Koa, Acacia, Cedar, และ Rosewood ครับ ซึ่งไม้เหล่านี้จะเป็นไม้ยอดนิยมที่เป็นมาตรฐานเลยของไลน์การผลิตทั้งกีต้าร์หรืออูคูเลเล่ก็ว่าได้ครับ และยังมีในส่วนของเรื่องประเภทไม้ที่มีความเป็น Solid และ Laminate ที่ส่งผลต่อราคาของอูคูเลเล่

ไม้ที่เป็น Solid คืออะไร?

Solid คือไม้แท้ครับ เป็นไม้ชิ้นเดียวที่นำมาประกอบกันเป็นอูคูเลเล่ โดยไม้ประเภทที่เป็น Solid นั้นจะมีพัฒนาการของเสียงในระยะยาวด้วย ยิ่งเราบ่อยหรือเล่นไปนานๆ เสียงก็จะยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็มีราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วยเช่นกันครับ ดังนั้นสำหรับมือใหม่แล้วจึงยังไม่มีความจำเป็นเท่าไหร่ เพราะด้วยราคาที่สูงจึงเหมาะที่จะเป็นอูคูเลเล่ตัวที่ 2 หลังจากเล่นเก่งแล้วหรือเล่นเป็นแล้วในระดับหนึ่ง สำหรับมือใหม่แล้วให้ไปโฟกัสอูคูเลเล่ที่ได้สัมผัสการกดจับสายได้ง่าย เพื่อให้ง่ายต่อการฝึกในช่วงแรกๆ ดีกว่าครับ

ไม้ที่เป็น laminate คืออะไร?

laminate หรือที่หลายๆ คนเข้าใจกันว่าคือ ไม้อัด นั่นเองครับ คำจัดกัดความง่ายๆ ของไม้อัดคือ ไม้ที่นำมาประกบกันตั้งแต่ 3 ชิ้นครับ ในข้อเสียเรื่องคุณภาพเสียงที่สู้ความเป็น Solid ไม้ได้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะทำให้อูคูเลเล่เสียงไม่ดีนะครับ แค่ไม้ประเภทนี้จะไม่มีการพัฒนาของเสียงเทียบเท่ากับ Solid แต่ในข้อเสียก็มีจุดเด่นคือ เป็นไม้ที่มีความคงทนต่อสภาพอากาสได้ดี ทำให้การดูแลรักษาในเรื่องของการเก็บรักษานั้นง่ายกว่าอูคูเลเล่ที่เป็นไม้ Solid และไม้ประเภท laminate ก็ยังมีด้วยการหลายเกรดอีกด้วย

สำหรับมือใหม่แล้วการที่เลือกซื้ออูคูเลเล่ที่เป็นไม้ laminate ไม่ว่าจะเป็น Mahogany หรือไม้ชนิดอื่นๆ ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีครับเพราะดูแลรักษาง่าย ได้โทนเสียงที่ดีและมาจากไม้พอสมควร อีกทั้งราคาก็อยู่ในเลทที่เหมาะสมกับมือใหม่ที่สุดอีกด้วย เพียงแต่ให้ได้องค์ประกอบสำคัญหลักๆ ที่มือใหม่หรือผู้เริ่มต้นจำเป็นต้องใช้ก็ถือว่าตอบโจทย์แล้วครับ

ลักษณะของรูปทรง

เมื่อเราพอรู้และเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของไซส์และขนาดของอูคูเลเล่แต่ละแบบไปแล้ว ในหัวข้อนี้เราจะมาทำความรู้จักกับลักษณะและรูปทรงของอูคูเลเล่กันบ้าง เมื่อเจออูคูเลเล่หน้าตาลักษณะแปลกๆ หรืออูคูเลเล่ทั่วๆไป เราจะได้เรียกชื่อทรงของอูคูเลเล่นั้นๆ ถูก แต่อย่างไรก็ตามทรงยอดนิยมและเหมาะกับการนำมาฝึกใช้หรือเหมาะกับการเล่นที่สุดคือ ทรง Figure 8 หรือ ทรงเลข 8 และเป็นทรงที่มีลักษณะและรูปร่างคล้ายทรงของกีต้าร์ครับ

ทรงเลข 8 จะเป็นทรงที่เหมาะกับการนำมาใช้งานที่สุดครับ การถือจับหรือการโอบกอดขณะเล่นอูคูเลเล่จะคล่องตัวและทำได้ดีกว่าทรงอื่นๆด้วย และทั้งหมดนี้เราจะหยิบมาพูดกันแค่ 3 ทรงหลักๆ ที่มีการนำมาใช้งานกันจริงๆ ครับ

1. ทรงมาตรฐาน( Figure8 )

เป็นทรงหลักและมาตรฐานทั่วๆไป ที่มีลักษณะคล้ายรูปเลข 8 หรือคล้ายรูปทรงของกีต้าร์นั่นเอง อีกทั้งยังเป็นทรงยอดนิยมและเหมาะสำหรับการเล่นการใช้งานสำหรับมือใหม่ที่สุด ด้วยลักษณะที่เป็นมาตรฐานสากลเข้ากับสรีระของเราเมื่อโอบจับทำให้มีความคล่องตัวขณะเล่น ดังนั้นถ้าใครจะซื้ออูคูเลเล่ต้องทรงนี้เลยครับเหมาะสุดแล้วสำหรับอูคูเลเล่ตัวแรกหรือการใช้งานระยะยาว

2. ทรงสับปะรด ( Pineapple )

ทรงที่มีความโดดเด่นเฉพาะทาง และมีความน่ารัก เป็นที่นิยมในฮาวายและแพร่หลายไปในวงกว้างของกลุ่มคนเล่นอูคูเลเล่ ทรงสับปะรดนั้นมักจะเป็นทางเลือกของผู้ซื้อในตัวที่ 2 ตัวที่ 3 มากกว่าที่จะเป็นการซื้ออูคูเลเล่ในตัวแรกที่นำมาใช้เล่นจริงหรือเป็นตัวหลัก ด้วยลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มีความน่ารักและแปลกใหม่ นั่นจึงทำให้เป็นทรงที่นักเล่นอูคูเลเล่อยากมีเก็บไว้กันสักตัวนั่นเอง

3. ทรงคอเว้า ( Cutaway )

ทรงนี้ก็เหมือนเป็นออปชั่นเสริมที่ติดมากับทรงมาตรฐานหรือทรงเลข 8 ที่มีออปชั่นเสริมเพิ่มขึ้นนั่นเองครับ แล้ว Cutaway คืออะไร? มีไว้ใช้ทำอะไรบ้าง การที่มี Cutaway ติดมาให้กับบอดี้นั้นถือเป็นข้อดีเพราะทำให้เราสามารถที่จะเล่นช่องด้านในลึกๆ ได้อย่างสะดวกขึ้นนั่นเอง ซึ่งนิยมใช้ในกรณีการเล่นในรูปแบบของการ Solo Melody หรือการบรรเลงเพลงในสไตล์ Fingerstyle ก็นิยมใช้กันมากเลยทีเดียวครับ ซึ่งการคว้านบอดี้ในส่วนล่างใต้คอของอูคูเลเล่ ที่ให้เกิดเป็นคอเว้านั้นก็จะช่วยให้เราเล่นอูคูเลเล่ได้กว้างและหลากหลายขึ้น

มือใหม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้ไหม ในช่วงแรกยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ครับ แต่การที่เราซื้ออูคูเลเล่ที่มีออปชั่นเรื่อง Cutaway ติดมาให้ด้วยนั้นถือเป็นเรื่องที่ดีในการเตรียมความพร้อมใช้งานในอนาคตต่อไป เมื่อเราต้องการเล่นรูปแบบโซโล่ในช่องด้านในลึกๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีออปชั่นเสริมอย่าง Armrest ที่เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับมือใหม่ ที่ช่วยลดอาการเจ็บจากการวางแขนขวานานๆ ในขณะเล่น ซึ่งโดยปกติในทั่วๆ ไปแล้วขอบของอูคูเลเล่จะมีความเหลี่ยมทำให้เมื่อเราวางแขนขวานานๆ อาจทำให้เกิดอาการเจ็บแขนได้ ตัว Armrest หรือที่พักแขนนี้จะเป็นการลบความเหลี่ยมของขอบให้มนเพื่อรับกับแขนขวาของเรา ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาให้การเล่นในระยะนานๆ ได้ดีเลยทีเดียวครับ

สรุปท้ายบท

เพื่อทบทวนบทความให้เข้าใจกันมากยิ่งขึ้น เรามาอ่านสรุปแบบสั้นๆ ให้เข้าใจกันอีกครั้งครับว่า วิธีการเลือกซื้ออูคูเลเล่ ที่ดีและให้ได้คุณภาพเราต้องรู้และเข้าใจเรื่องใดบ้างของอูคูเลเล่ ในขั้นพื้นฐานไม่ว่าเป็นเรื่องของ ราคา วิธีเลือก สเปคและรายละเอียดต่างๆ

1. ในเรื่องของราคา เป็นตัวแปรที่สำคัญอันดับต้นๆ ที่จะทำให้อูคูเลเล่มีคุณภาพที่ต่างกันอย่างชัดเจน
2. รูปทรงและขนาดที่เหมาะสำหรับมือใหม่ แนะนำเป็นไซส์ Concert เพราะอะไร? สามารถอ่านได้จากหัวข้อด้านบนครับ
3. รูปทรงแนะนำให้ใช้เป็นทรงมาตรฐานหรือทรงเลข 8 เพราะเป็นทรงที่เข้ากับสรีระลำตัวของผู้เล่น และยังสามารถเล่นได้หลากหลาย

นอกจากนี้ยังมีในส่วนของออปชั่นเสริมต่างๆ เช่น Armrest (ที่พักแขนขวา) ซึ่งออปชั่นเสริมเหล่านี้เป็นเพียงส่วนเสริมที่ทำให้เราสะดวกขึ้น จะมีหรือไม่มีก็ได้ ถ้ามีก็คือจุดเด่นหรือผลพลอยได้สำหรับผู้ซื้อที่ได้อูคูเลเล่ที่ตอบจุดประสงค์ได้ครอบคลุมครับ

นี่เป็นเพียงจุดประสงค์และรายละเอียดหลักๆ แต่ครอบคลุมในการเลือกซื้อสำหรับมือใหม่ หรือผู้ที่ต้องการอูคูเลเล่ ที่ตอบโจทย์การใช้งานในระยะยาว สำหรับใครที่มีคำถามข้อสงสัยอื่นๆ หรืออยากได้อูคูเลเล่ตัวแรกไปใช้เล่นใช้ฝึกสามารถสอบถามรายละเอียดกับทาง Ezyukulele ได้เลยครับ เรายินดีให้คำแนะนำครับ